เชฟโรเลต ประเทศไทย เตรียมเผยโฉมรถอเนกประสงค์ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุด โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ในวันที่ 26 มีนาคม นี้ พร้อมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ร่วมกับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยทั้งโคโลราโด และ เทรลเบลเซอร์
การกลับมาทำตลาดอีกครั้งของรถอเนกประสงค์เชฟโรเลตรุ่นที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2549 แคปติวาเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีความกว้างขวาง สไตล์โฉบเฉี่ยว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ” นางสาวปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด เชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย กล่าว “ให้ความคุ้มค่า ผสมผสานการออกแบบที่ร่วมสมัย เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ความกว้างขวางของพื้นที่ภายในห้องโดยสารและประโยชน์ใช้สอยที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ตามแนวคิด Find New Roads ด้วยแคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดนี้”
แคปติวา รุ่นใหม่ยังเป็นก้าวสำคัญของเชฟโรเลตในการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่แบรนด์และธุรกิจในประเทศไทย โดยปี 2561 ยอดจำหน่ายรถยนต์ของเชฟโรเลต ประเทศไทยเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2559 เติบโตขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ และมุ่งมั่นสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในปี 2562
เชฟโรเลต
ประเทศไทยยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย การ
บริการงานขาย และการบริการหลังการขายด้วยการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของเชฟโรเลตให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย
ภายในปี 2563
“กลยุทธ์ของเราในการมุ่งทำตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์นั้น ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่างๆ และสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของจีเอ็มในระดับโลก ที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจของเราก้าวไปข้างหน้า” นางสาวปิยะนุชกล่าวเพิ่มเติม “การเปิดตัวแคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุด จะสร้างการเติบโตให้กับเชฟโรเลต ประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ”
แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดจะออกจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ที่จะจำหน่ายในไทยและหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงอเมริกาใต้ โครงการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบที่ก้าวล้ำและศักยภาพทางวิศวกรรมของเอสเอไอซี-จีเอ็ม-วู่หลิง (เอสจีเอ็มดับเบิลยู) บริษัทร่วมทุนของจีเอ็ม ในประเทศจีน
โดยที่นายเอียน นิโคลส์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า
“ความมั่นคงของจีเอ็มในประเทศจีน ช่วยให้เรามีการแบ่งปันผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการผลิต จีเอ็มมีบริษัทร่วมทุนจำนวน 11 แห่งที่ดำเนินการในด้านการผลิต วิศวกรรมและการออกแบบ ระบบเทเลเมติกส์ (เทคโนโลยีเชื่อมต่อสำหรับรถยนต์) สินเชื่อรถยนต์ และด้านอื่นๆ มีศูนย์การผลิตและสำนักงานกว่า 27 แห่งและมีพนักงานมากกว่า 58,000 คนในจีน เอสจีเอ็มดับเบิลยูคือ เสาหลักของธุรกิจร่วมทุนของจีเอ็ม”
“การปฏิบัติงานของจีเอ็มในจีน รวมถึงเอสจีเอ็มดับเบิลยูนั้น ทำให้จีเอ็มมีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์เกือบ 4 ล้านคันในปี 2561 ดังนั้นจีเอ็มจึงมีขอบเขต ขนาด และศักยภาพทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มาก การร่วมเป็นหุ้นส่วนกับเอสจีเอ็มดับเบิลยูทำให้เชฟโรเลต ประเทศไทย และตลาดระหว่างประเทศแห่งอื่นๆ ของเชฟโรเลต สามารถนำเสนอรถยนต์ระดับโลกรุ่นต่างๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากขนาดและการดำเนินธุรกิจทั่วโลกของจีเอ็ม ซึ่งธุรกิจร่วมทุนที่มีขนาดใหญ่ของจีเอ็มนี้ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล”
“เราจะเปิดตัวรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดประเทศไทยด้วยการเป็นหุ้นส่วนกับเอสจีเอ็มดับเบิลยู เปิดโอกาสให้ลูกค้าเชฟโรเลตมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น กลยุทธ์เพื่อการเติบโตของเรานั้นคือ การใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานระดับโลกของจีเอ็มเพื่อเปิดตัวรถยนต์นำเข้ารุ่นต่างๆ นอกเหนือจากรถยนต์รุ่นหลักๆ ได้แก่ โคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ ที่เรากำลังทำตลาดอยู่และผลิตที่ศูนย์การผลิตในประเทศไทย ” นายเอียน กล่าว
สำหรับราคาจำหน่ายและข้อมูลต่างๆ ของเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่นี้จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง ลูกค้าที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และเข้าชมรถรถรุ่นดังกล่าวได้ที่บูธเชฟโรเลต ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 หรือเข้าชมเว็บไซต์ https://www.chevrolet.co.th/cars/captiva/suv-captiva.html
