สวัสดีครับ ข้อมูลนี้ได้จากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ใช่ข้อมูลภายในบริษัทผลิตสินค้า กรณีต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาสอบถามจากผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในคันแรกของโลก มีขึ้นในปี 1903 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากหรือ 4×4 Off Road ก็ได้รับการวิจัยพัฒนาจนได้รับการบรรจุเข้าประจำการในราชการสงครามโลก สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากถูกปลดประจำการ พลเรือนจึงนำมาดัดแปลงสภาพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้ เหมืองแร่ ฟาร์มไร่ปศุสัตว์ กลุ่มนักผจญภัยใช้ชีวิตกลางแจ้ง (Outdoor Life) ทั้งอเมริกันและอินโดนีเซีย นำมาขับลุยป่าเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นที่ฮือฮานิยมแพร่หลายทั่วโลก...
การไปกางเต็นท์แบบเอ้าดอร์หรือกลางแจ้งนั้น ส่วนใหญ่ปัญหาแรกๆ ที่จะต้องเจอเลยก็คือ เต็นท์จะเปียกชื้นจากน้ำค้าง หรือเจอฝน รวมทั้งความสกปรกอื่นๆ เช่นเศษหิน เศษดินทราย เป็นต้น
ดังนั้นเต็นท์จึงสกปรกแน่นอน จะสกปรกมากหรือน้อยก็ควรทำความสะอาด ถ้าสกปรกน้อยก็ควรทำความสะอาดด้วยการใช้ไม้กวาดเพื่อปัดกวาดเอาเศษขยะภายในเต็นท์ และที่ติดอยู่ตามภายนอกเต็นท์ออกไป และใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าพอหมาดๆ นำมาเช็ดถูภายในเต็นท์และภายนอกเต็นท์ ห้ามใช้แปรงขัดเพราะแปรงจะทำให้สารเคลือบหลุดออกเช่นกัน จากนั้นนำไปตากแดดในที่ร่มหรือแดดอ่อนๆ ยามเช้าหรือยามเย็น ควรตากให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ถ้าเต็นท์สกปรกมาก ก็ควรใช้น้ำสะอาดล้างหรือควรใช้น้ำผสมสบู่หรือยาสระผมอย่างอ่อน ห้ามใช้ผงซักฟอกอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าของเต็นท์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งพอจะแยกเป็นข้อๆ ปลีกย่อยได้ดังนี้
1.ถ้านำเต็นท์ไปท่องเที่ยวตามชายทะเล นอกจากทำความสะอาดดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังต้องทำความสะอาดบริเวณซิปเป็นพิเศษด้วยการใช้น้ำฉีดพ่นบริเวณซิป เพื่อขจัดกรวดทรายและคราบไอทะเลที่เกาะอยู่ให้หลุดไป รวมทั้งเป็นการป้องกันฟันของซิปสึกหรอหรือฝืดจนใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ควรนำเศษผ้าจุ่มขึ้ผึ้งหรือใช้เทียนไขก็ได้มาขัดถูบริเวณซิปเพื่อยืดอายุการใช้งานของซิปที่มักจะติดขัดเสมอเมื่อใช้ไปนานๆ
2.หากต้องการซักเต็นท์ เพราะเห็นว่ามีความสกปรกมากและมีกลิ่นอับเหม็น ควรใช้น้ำผสมสบู่หรือยาสระผมอย่างอ่อน ห้ามใช้ผงซักฟอกอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าของเต็นท์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ควรใช้แป้งทาตัว(อย่างอ่อน)โรยบริเวณซอกมุมของเต็นท์เพื่อช่วยขจัดความชื้นให้หมดไป
3.ควรเก็บเต็นท์ไว้ในสถานที่ๆ อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อบอ้าวจนเกินไป และไม่ควรวางไว้กับพื้น โดยเฉพาะพื้นปูน เพราะบริเวณนั้นจะมีความชื้นและทำให้เต็นท์เกิดเชื้อราได้ง่าย
4.หากว่าไม่ได้ไปออกทริปนานๆ ควรนำเต็นท์ของเราออกมากางผึ่งแดดอ่อนๆ เพื่อขจัดกลิ่นอับและไล่ความชื้น
5.ใช้ผ้าพลาสติกปูรองพื้นเต็นท์ ผ้ารองพื้นจะใช้ปูรองพื้นก่อนกางเต็นท์ ประโยชน์คือ ช่วยปกป้องตัวเต็นท์จากหินและกิ่งไม้ หรือของแหลมคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้พื้นเต็นท์เกิดความเสียหายได้ และนอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาในการทำความสะอาด เพราะเราเพียงแต่ทำความสะอาดที่ผ้าปูเท่านั้น
6.การใช้สมอบกปักเต็นท์ บางคนอาจคิดว่าสมอบกไม่จำเป็นเพราะเต็นท์สามารถทรงตัวได้อยู่แล้ว แต่บางครั้งเมื่อเกิดลมแรง เต็นท์อาจจะมีการพลิกซึ่งอาจจะทำให้เต็นท์เสียหายได้ ถ้าช่วงที่คุณกางเต็นท์มีลมแรงควรจะนำสัมภาระเข้าไปไว้ในเต็นท์แล้วปักสมอบกยึดเต็นท์ไว้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเต็นท์พลิกจากแรงลมได้
7.ใช้อุปกรณ์ซ่อมแซมเต็นท์ถ้าจำเป็น หากเต็นท์เกิดการเสียหาย เช่น ผนังเต็นท์มีรอยฉีกขาด ควรใช้พวกผ้าเทปปิดรอยขาดนั้นไว้ มิฉะนั้นรอยขาดนั้นจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์ซ่อมแซมเต็นท์สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์แค้มปิ้ง ทั่วไป
8.ใช้ผ้าพลาสติกปูรองพื้น ผ้ารองพื้นจะใช้ปูรองพื้นก่อนกางเต็นท์ ประโยชน์คือช่วยปกป้องตัวเต็นท์จากหินและกิ่งไม้อันแหลมคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้พื้นเต็นท์เกิดความเสียหายได้ และนอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาในการทำความสะอาด เพราะเราเพียงแต่ทำความสะอาดที่ผ้าปูเท่านั้น
เป็นข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลเต็นท์ของเราให้สามารถยืดอายุการใช้งานได้มากยิ่งขึ้นครับ