4×4 Academy ลองก่อนเข้าป่าจริง

รถออฟโรดหรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีทั้งรถกระบะ รถ SUV รถPPV หรือรถกระบะดัดแปลงนั้น  จะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ตรงกันข้ามมีคนอยู่มากที่ใช้รถประเภทนี้ไม่คุ้มค่า หรือสมราคาที่เสียเงินจ่ายซื้อรถไป บางท่านไม่เคยได้ใช้เกียร์ 4WD เลยสักครั้งเดียวก็มี บางคนอาจจะซื้อตามค่านิยม และมีอยู่มากที่ขับขี่ด้วยวิธีการผิดๆ จนทำให้รถเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

การขับรถออฟโรดที่แท้จริง เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องอาศัยการเรียนรู้อย่างถูกวิธี ผสมผสานกับการขับขี่ที่ถูกต้องปฎิบัติควบคู่กันไป จะทำให้เราใช้รถประเภทนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว บางท่านอาจจะคิดว่ายุ่งยากและซับซ้อน แต่จริงๆ แล้ว การขับขี่รถที่ถูกวิธีจะทำให้ “ไปให้ถึง กลับให้ได้ รถไม่เสียหาย คนปลอดภัย”

ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งแรกที่แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถของเราเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ กลไกต่างๆ ตลอดจนมิติของรถ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่เจ้าของรถแต่ละคนควรต้องทราบ จะทำให้การควบคุมรถเป็นไปโดยสมบูรณ์แบบ

ยิ่งรถออฟโรดมีความพิเศษในเรื่องของสมรรถนะกว่ารถประเภทอื่นๆ สามารถพาเราไปไหนๆ ก็ได้ตามที่เราต้องการ แม้จะมีอุปสรรคมากมายขวางอยู่ข้างหน้า แต่นั่นหมายความว่า รถคันนั้นต้องมีการปรับแต่งและโมดิฟายมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่าง อุปกรณ์พิเศษ เช่น รอกไฟฟ้า (WINCH) กันชน ขอลาก และอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ เกียร์ เฟืองหน้า-หลัง ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนเพิ่มสมรรถนะให้กับรถมากขึ้นทั้งสิ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้กัน นอกจากจะต้องทราบในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถ เทคนิคการขับแล้ว การได้ฝึกขับขี่จริง โดยเฉพาะในสนามเทรนนิ่งหรือสนามป่าที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ จะทำให้เราสามารถขับรถได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี โดยที่รถสามารถให้อรรถประโยชน์ได้สูงสุด รวมทั้งแทบไม่เกิดความเสียหายแก่รถ และสร้างความปลอดภัยในกับตัวเองด้วย

ด้วยเหตุนี้ สนาม Grand Prix Motor Park จึงได้สร้างสนามทดสอบในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซน Thailand 4×4 Academy ที่จำลองมาจากอุปสรรคต่างๆ ในธรรมชาติ โซนถัดมาก็คือ Drit Tracks Circuit เป็นโซนที่ใช้การแข่งขันและทดสอบรวมทั้งฝึกทักษะการขับขี่ในเส้นทางแบบทางฝุ่น

และอีกโซนหนึ่งก็คือ โซน 4×4 Adventure ที่ทางสนามได้ตัดเส้นทางลัดเลาะไปตามป่าเขา ในเส้นทางธรรมชาติจริงระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ครบถ้วนไปด้วยอุปสรรคต่างๆ มากมาย ที่รองรับสำหรับสแตนดาร์ดทั่วๆ ไป อาทิ เนินชัน เนินเอียง ร่องและหลุมสลับ ให้อรรถรสการขับขี่เสมือนกับอยู่ในเส้นทางตามป่าเขาจริงๆ เป็นที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักขับมือใหม่ๆ และรถที่ใช้งานหรือรถสแตนดาร์ดทั่วๆ ไป ทั้งรถกระบะ รถ SUV และครอสโอเวอร์ เป็นต้น

ว่างๆ แวะเวียนไปทดลองครับกันได้ตลอดครับ…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *