สวัสดีครับ ข้อมูลนี้ได้จากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ใช่ข้อมูลภายในบริษัทผลิตสินค้า กรณีต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาสอบถามจากผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในคันแรกของโลก มีขึ้นในปี 1903 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากหรือ 4×4 Off Road ก็ได้รับการวิจัยพัฒนาจนได้รับการบรรจุเข้าประจำการในราชการสงครามโลก สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อวิบากถูกปลดประจำการ พลเรือนจึงนำมาดัดแปลงสภาพเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้ เหมืองแร่ ฟาร์มไร่ปศุสัตว์ กลุ่มนักผจญภัยใช้ชีวิตกลางแจ้ง (Outdoor Life) ทั้งอเมริกันและอินโดนีเซีย นำมาขับลุยป่าเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นที่ฮือฮานิยมแพร่หลายทั่วโลก...
ในช่วงไตรมาศที่ 4 ของทุกๆ ปีที่ผ่านมานั้น ทางอีซูซุสุพรรณ หรือ บริษัท อีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณ จำกัด จะพาสมาชิกเดินทางไปท่องเที่ยวในรูปแบบคาราวานท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่เนืองๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับสมาชิก ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีงามให้กิดขึ้นกับหมู่คณะ
อย่างไรก็ตาม อันเนื่องด้วยสถานการณ์ของโรคไวรัสโรนาหรือโควิด 19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกเช่นปัจจุบัน ทำให้แต่ละประเทศ ต้องมีมาตรการปิดประเทศรวมทั้งพรมแดนที่มีอาณาเขตเชื่อมต่อกัน ดังนั้นในช่วงนี้การข้ามแดนไปมาของผู้คนจึงแทบจะหมดโอกาส ยกเว้นเฉพาะบุคคลบางกลุ่มที่ได้รับอนุญาต เช่น ผู้ที่ทำธุรกิจหรือผู้ที่ถือวีซ่านักศึกษา เป็นต้น ส่วนในการท่องเที่ยวนั้น คงต้องรอไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น
กระนั้นปีนี้ทางอีซูซุสุพรรณ นำโดย คุณประสิทธิ์ ดีศิลปกิจ กรรมการผู้จัดการ จึงได้จัดทริปท่องเที่ยวในประเทศ ภายใต้ชื่อ “All New Isuzu V-Cross 4X4 ลุย เทรน เท่ห์ สไตล์อีซูซุสุพรรณ” ซึ่งทริปนี้ใช้เส้นทางสุพรรณบุรี – Grand Prix Motor Park อ.บ่อพลอย – ทองผาภูมิ – ร.ร.บ้านขนุนคลี่ – ตาโตบูติคโฮมสเตย์ – น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-เขื่อนศรีนครินทร์ โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา
ไฮไลท์ของทริปนี้อยู่ที่ผู้ร่วมเดินทางทุกคน จะได้เสริมสร้างทักษะในการขับขี่รถยนต์ 4WD อย่างถูกวิธี สามารถใช้รถได้อย่างมีเต็มประสิทธิภาพ และทริปนี้เป็นครั้งแรกๆ ของเมืองไทย ที่จะเปิดให้ผู้ร่วมทางทุกคน ได้ร่วมสัมผัสกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถ SUV ใหม่แกะกล่องที่มาพร้อมคำนิยามที่ว่า “เหนือทุกความเชื่อ เหนือทุกความสำเร็จ” นั่นก็คือ Isuzu All New Mu-X ในสนาม Grand Prix Motor Park อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นั่นเอง
หลังลงทะเบียนรับสติ๊กเกอร์ติดรถ และคู่มือการเดินทาง ที่ บริษัท อีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณ จำกัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรีแล้ว ก็ออกเดินทางสู่สนาม Grand Prix Motor Park อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ด้วยจำนวนรถทั้งหมด 29 คัน (รวมทีมงาน) ก่อนจะเข้าห้องอบรมภาคทฤษฏีที่คอนโทรลทาวเวอร์ เรียนรู้เกี่ยวกับตัวรถและเทคนิคการขับขี่ในอุปสรรคต่างๆ โดยแบ่งกลุ่มทดสอบ Isuzu V-Cross Max และ Isuzu All New Mu-X ในสนาม Thailand 4×4 Academy, สนาม Dirt Circuit และสนาม 4×4 Adventure กันแบบเต็มอิ่ม ได้รับความรู้และทักษะจากวิทยากรผู้ชำนาญการของอีซูซุสุพรรณแล้ว ในช่วงเย็นทั้งหมดก็เดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรมกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ และ โรงแรม แอท เมืองพลอย ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่โรงแรมกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
รุ่งเช้าของวันใหม่ ได้เวลาเดินทางไกลสู่ อ.ทองผาภูมิ เพื่อไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารครัวแปดริ้ว อ.ทองผาภูมิ (ตั้งอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย) จากนั้นเดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านขนุนคลี่ โดยปากทางเข้าของเส้นทางนั้น ตั้งอยู่ห่างจากครัวแปดริ้วไปประมาณ 6 ก.ม.เป็นเส้นทางออฟโรดประมาณ 17 กิโลเมตร ตัดลัดเลาะไปตามสวนยางพาราของชาวบ้าน และเทือกเขาสูงชัน เต็มไปด้วยฝุ่นเส้นทางที่ทีมงานเคยเข้ามาสำรวจ และวางจุดให้ทีมวิทยากรคอยบอกไลน์ เนื่องจากมีจุดยากและอันตรายอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งเต็มไปด้วยหลุม ร่อง และบ่อโคลน บัดนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขนุน ได้ทำการปรับเกรดทางใหม่จะขับกันสบายขึ้น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็เดินทางถึงโรงเรียนขนุนคลี่ โดยมีขบวนรถ 2WDมารออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อถึงโรงเรียนบ้านขนุนคลี่ หรือ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านขนุนคลี่ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของโรงเรียนบ้านอู่ล่องแล้ว สมาชิกทั้งหมดก็ร่วมกันเลี้ยงไอศกรีม พร้อมมอบสิ่งของและอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้กับนักเรียนบ้านขนุนคลี่ ซึ่งมีนักเรียนอยู่ทั้งหมด 135 คน
จากโรงเรียนขนุนคลี่ขบวนทั้งหมดก็เดินทางฝ่าทะเลฝุ่นออกมาอีกประมาณ 17 กิโลเมตร และเดินทางต่อเนื่องอีกประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ตามทางราดยางสู่ ต.ชะแล เพื่อพักแรมกางเต็นท์ในสไตล์แคมปิ้ง ที่ตาโตบูติค โฮมสเตย์ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ แยกย้ายกันกางเต็นท์พักแรม และร่วมรับประทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็น และรอบกองไฟ พร้อมชมการแสดงของชาวกะเหรี่ยงพร้อมดนตรีขับกล่อม ในบรรยากาศแห่งมิตรภาพและอากาศที่หนาวเหน็บ
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ทานอาหารและกาแฟท่ามกลางอากาสที่หนาวเย็น และจัดเก็บสัมภาระออกเดินทางจากตาโตบูติคโฮมสเตย์เพื่อไปยังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ไปตามเส้นทางฝุ่นระยะทางประมาณ 52 กม.เพื่อเที่ยวชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทานอาหารกลางวันที่ร้านปิ่นไพร-ป้าหยุด ปากทางเข้าน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อช.เขื่อนศรีนครินทร์ เที่ยวชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามตามอัธยาศัย
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อยู่ทางตอนกลางของพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากต้นน้ำของ เทือกเขากะลา ที่เป็นป่าดิบเขาแล้งทางตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และไหลลงมาสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกจะไหลลงมาเป็นชั้นถึง 7 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นเลยมีความสวยงามในแบบที่ต่างกันไป ทำให้ที่แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้น 4 มีระยะทางแค่ 300-750 เมตรเท่านั้น แต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของน้ำตก จะมีระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร โดยแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เริ่มจาก ดงว่าน ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ ร่มเกล้า ตามลำดับ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีความสูงและความสวยงามที่จะไม่เหมือนกันเลย
ปิดท้ายทริปอันแสนอบอุ่น ด้วยการออกเดินทางไปยังแพขนานยนต์ข้ามฟากเขื่อนศรีนครินทร์มุ่งหน้าสู่ อ.ศรีสวัสดิ์ วิ่งลัดเลาะไปตามเส้นทางเขาเหล็กซึ่งเป็นเส้นทางที่สวยงามมากที่สุดเส้นทางหนึ่งของกาญจนบุรี แต่ไม่ค่อยมีผู้ใช้สัญจรเท่าใดนักเนื่องจากความคดเคี้ยว ใช้เวลามากกว่าปกติ และที่สำคัญเกือบตลอดเส้นทาง จะพบรอยช้างป่าเกือบตลอดเส้นทาง
ขบวนคาราวาน “All New Isuzu V-Cross 4X4 ลุย เทรน เท่ห์ สไตล์อีซูซุสุพรรณ” เดินทางถึงบริเวณลานจอดรถและจุดชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์ ถ่ายภาพร่วมกันและร่ำลาก่อน พร้อมเก็บความประทับใจแยกย้ายกลับสู่ภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ