การไปกางเต็นท์แบบเอ้าดอร์หรือกลางแจ้งนั้น ส่วนใหญ่ปัญหาแรกๆ ที่จะต้องเจอเลยก็คือ เต็นท์จะเปียกชื้นจากน้ำค้าง หรือเจอฝน รวมทั้งความสกปรกอื่นๆ เช่นเศษหิน เศษดินทราย เป็นต้น ดังนั้นเต็นท์จึงสกปรกแน่นอน จะสกปรกมากหรือน้อยก็ควรทำความสะอาด ถ้าสกปรกน้อยก็ควรทำความสะอาดด้วยการใช้ไม้กวาดเพื่อปัดกวาดเอาเศษขยะภายในเต็นท์ และที่ติดอยู่ตามภายนอกเต็นท์ออกไป และใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าพอหมาดๆ นำมาเช็ดถูภายในเต็นท์และภายนอกเต็นท์ ห้ามใช้แปรงขัดเพราะแปรงจะทำให้สารเคลือบหลุดออกเช่นกัน จากนั้นนำไปตากแดดในที่ร่มหรือแดดอ่อนๆ ยามเช้าหรือยามเย็น ควรตากให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ถ้าเต็นท์สกปรกมาก ก็ควรใช้น้ำสะอาดล้างหรือควรใช้น้ำผสมสบู่หรือยาสระผมอย่างอ่อน ห้ามใช้ผงซักฟอกอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าของเต็นท์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น...
สืบเนื่องมาจากงาน TJM MAX-1 Grand Opening หรือการเปิดร้านใหม่ TJM MAX-1 ซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 230(ชุมแพ-กาฬสินธุ์) ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ท่ามกลางแขกเหรื่อและเพื่อนพ้องมาร่วมแสดงความยินดีครั้งนี้มากมาย
หลังจบงาน Grand Opening หรือเปิดร้านดังกล่าวแล้ว ก่อนหน้านี้ทาง TJM MAX-1 ได้มีการพูดคุยกับทางชมรมขอนแก่นออฟโรด ที่เป็นเสมือนพันธมิตรอันเหนียวแน่น ว่าจะมีการทำกิจกรรมครั้งใหญ่เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่สาธารณประโยชน์หรือสาธารณกุศล นั่นก็คือ การร่วมกันสมทบทุนและบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
โดยใช้ชื่อโครงการดังกล่าวว่า “บอกฮักในถิ่นกันดาร สานสัมพันธ์น้องพี่” โดยสรุปกันไว้ทั้งหมด 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.โนนคอม ต.ท่าข้าม ต.นาฝาย ต.วังสวาบ ต.โนนสะอาด และ ต.ดงสะคร่าน อ.ภูผาม่าน ซึ่งห่างจากขอนแก่นไปประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร เขตติดต่อกับ 4 อำเภอ 4 จังหวัด ทั้ง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ทางฝั่งทิศตะวันตก อ.ภูกระดึง จ.เลย ทางทิศเหนือ, อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ทางทิศใต้ และ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ทางฝั่งทิศตะวันออก
ทั้งนี้ก่อนวันเดินทางที่กำหนดเอาไว้คือ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ปรากฏว่ามียอดบริจาคเงินและสิ่งของจากผู้มีจิตอาสามากมาย รวมมูลค่าเงินและสิ่งของประมาณ 228,335 บาท นอกจากนี้ยังมีเหล่าพันธมิตรจากชมรมและกลุ่มต่างๆ แสดงความจำนงค์มากมายกว่า 60 คัน ประกอบด้วย รถจาก TJM MAX-1 ที่รวบรวมเอารถจากตัวแทนจำหน่าย TJM ทั่วประเทศมางานครั้งนี้ด้วยหลายคัน สมทบกับ ชมรมขอนแก่นออฟโรด, รีโว่หัวเดี่ยว, ฟูตม, ลำน้ำเชิน, FORD T6, TRITON 4×4 CLUB, คนเมืองเลยออฟโรด, สะออนเลย, T-REX 4X4, สายบันเทิง, บังเอิญออฟโรด, HI-LAY 4×4, จี๊ปขอนแก่น และกลุ่มพัฒนาเด็กขอนแก่น ดังนั้นทริปนี้จึงกลายเป็นงานใหญ่ที่รวบรวมชมรมต่างๆ เอาไว้มากที่สุดอีกงานหนึ่งของภาคอีสานไปโดยปริยาย
ช่วงเช้าของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 รถบางส่วนออกเดินทางมารวมตัวกันที่ร้าน TJM MAX-1 เพื่อขนสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงลงทะเบียนเพื่อเล่นเกม รับอาหาร จัดเตรียมสิ่งของต่างๆ แล้วก็ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.ชุมแพ แวะพักขบวนกันชั่วครู่เพื่อสำรองน้ำมันกันที่ อ.ชุมแพ ก่อนจะออกเดินทางต่อสู่อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ อ.น้ำหนาว ก่อนวกกลับเข้าเขต อ.ภูผาม่าน อันเป็นปากทางเข้าสู่เส้นทางออฟโรดแห่งตำนานของขอนแก่น นั่นก็คือ ห้วยไข่เต่า โดยมีชมรมขอนแก่นออฟโรดทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง และเลือกเอาเส้นทางแบบเบาๆ พอหอมปากหอมคอ เนื่องจากจำนวนรถค่อนข้างเยอะ และเลือกที่จะเลี่ยงสู่ใจกลางเส้นทางมหาโหดของห้วยไข่เต่าโดยตรงดังนั้นเส้นทางจึงหนักไปทางขึ้นๆ ลงๆ เนินชันเป็นหลัก สลับกับมีเกมให้สมาชิกได้เลือกเล่นกันตลอดเส้นทาง
ราวบ่ายเศษๆ ขบวนทั้งหมดก็สามารถเดินทางมาถึงยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพดงสะคร่าน ต.วังสวาบ ที่ตั้งอยู่กลางวงล้อมแห่งขุนเขา โดยมีนายอำเภอภูผาม่าน นายชินกร แก่นคง ให้เกียรติมาเป็นผู้รับมอบด้วยตัวเอง ท่ามกลางรอยยิ้มและการต้อนรับที่แสนอบอุ่นของชาวบ้าน จากนั้นทั้งหมดนำโดย คุณสุภาวดี วิทูรปกรณ์ กรรมการผู้จัดการ TJM ออสเตรเลีย พร้อมด้วย คุณวิรัช เก่งทันการ ผู้บริหารจาก TJM MAX-1 ร่วมกับตัวแทนจากชมรมต่างๆ ก็ช่วยกันมอบสิ่งของเครื่องใช้และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพดงสะคร่าน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และรักษาพี่น้องในพื้นที่ รวมทั้งแจกจ่ายยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต่างๆ ในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
ครั้นเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญของทริปนี้ คือ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแล้ว ก็ได้เวลาเคลื่อนตัวออกเดินทางกันต่ออีกคำรบ ที่หมายปลายทางก็คือ ภูม่าน แคมป์รีสอร์ท ภูผาม่าน ที่ห่างไปราว 30 กิโลเมตร ซึ่งใช้เป็นจุดพักแรมและร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมทางทุกกลุ่ม ทุกชมรม และเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับการเดินทางครั้งนี้เช่นกัน เพราะภูม่าน แคมป์ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับถ้ำค้างคาวภูผาม่าน ของอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อ. ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น
ถ้ำค้างคาวแห่งนี้เปรียบเสมือน UNSEEN หรือความมหัศจรรย์อีกแห่งหนึ่งของขอนแก่น ตัวถ้ำนั้นมีขนาดใหญ่ ปากถ้ำกว้าง 8 เมตร สูง 12 เมตร ลึก 100 เมตร ภายในถ้ำมีค้างคาวปากย่นอาศัยอยู่หลายล้านตัว ชาวบ้านแถวๆ มักจะเรียกว่า ค้างคาวแดง หรือ อีเจียแดง ในช่วงเย็นๆ แสงสุดท้ายของทุกวัน ค้างคาวภายในถ้ำจะบินออกไปหากินเป็นริ้วขบวนยาวนับสิบกิโลเมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้เป็นอย่างมากในความมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นครั้งนี้
อย่างไรก็ตามความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่ล้อมกรอบอยู่รอบด้าน ถูกผสมผสานและกลมกลืนอย่างลงตัว กับร้อยยิ้ม เสียงเฮฮา ของผู้ร่วมทางจิตอาสาครั้งนี้ ที่ทุกคนได้บรรจงร่วมกันสร้างกิจกรรมดีๆ ถ่ายทอด DNA ของความเป็นออฟโรด ที่พร้อมจะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมในสังคมที่ห่างไกล ถิ่นทุรกันดาร สมกับโครงการ “บอกฮักในถิ่นกันดาร สานสัมพันธ์น้องพี่”