ทดสอบแบบจัดเต็มกับ All New Isuzu V-Cross 4×4 กับคาราวานผจญภัยไร้พรมแดนที่ลาวใต้

ดีแมคซ์ ในเจเนอเรชั่นแรก ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อปี 2545 ท่ามกลางยอดขาดถล่มทลาย จากนั้นมาทางอีซูซุก็ได้สานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้ทำการเปิดตัว “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” พลานุภาพ…พลิกโลก! ที่มาในภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART  ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติจากภายนอกจรดภายใน แรงสะใจกับขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่  แพลตฟอร์มใหม่เพื่อดุลยภาพของการขับขี่  ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ  เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น พร้อมให้ผู้ใช้รถในเมืองไทยได้สัมผัสตัวเป็นๆ เมื่อปลายปีก่อนที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

ข้อมูลทั่วๆ ไป นั้นเชื่อแน่ว่า ทุกท่านพอจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่การที่นำมาทำการทดสอบแบบจริงๆ จัง และเผยแพร่สู่สาธารณชน และนำข้อมูลมาบอกกล่าวเล่าเรื่องนั้น ยังไม่ค่อยเท่าไรนัก แต่ครั้งนี้ทีมงานได้มีโอกาสเดินทางไปกับทาง บริษัท อีซูซุอึ้งง่วนไต๋สุพรรณ จำกัด ซึ่งจัดคาราวานท่องเที่ยวผจญภัยที่ลาวใต้ ที่น่าสนใจก็คือ มีการนำรถ All New Isuzu V-Cross 4×4 คันใหม่แกะกล่องร่วมเดินทางพร้อมทดสอบด้วยจำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นตัวท็อปสุด เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์  4JJ3-TCX เทคโนโลยีดีเซลล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600  รอบ/นาที  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า

ซึ่งงวดนี้เรามีภาพบรรยากาศและการทดสอบในทริปพิชิตดินแดนลาวใต้สวยมาให้ชมกัน แต่ก่อนอื่นลองไปดูกันว่าในรุ่นใหม่ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” พลานุภาพ…พลิกโลก! นี้เป็นอย่างไรบ้าง

All New Isuzu V-Cross 4×4 ถือว่ามี ดีไซน์ภายนอกที่ค่อนข้างออกแบบใหม่หมดทุกมุมมอง แม้ว่ามองผ่านๆ อาจจะไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ก่อนเท่าใดนัก แต่ด้วยแนวคิด  “Bold but Emotional”  ทำให้ตัวรถมีมิติที่ใหญ่ และบึกบึน ดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีเส้นสายพริ้วไหว ช่วยให้ตัวรถดูปราดเปรียวและสปอร์ต พร้อมประสิทธิภาพความลู่ลมที่สมบูรณ์แบบ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุด ผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลม Japan Railway Research Institute หรือ JR  ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น  ทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีห้องโดยสารที่เงียบขึ้นอีกด้วย พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่ถือว่าค่อนข้างล้ำสมัยพอสมควร อาทิ ไฟหน้า Isuzu Vision Bi-LED พร้อมระบบเปิด – ปิดอัตโนมัติ  ไฟ Multifunctional Daylight แบบ Built-in และไฟตัดหมอก LED  ดูสปอร์ต ล้ำสมัย ไฟท้าย Dual-Sonic LED กันชนท้าย Integrated Bumper เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ และดีไซน์ล้อหลากหลายสไตล์T

ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยแนวคิด “Bold but Smart” คอนโซลหน้าเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers  สะท้อนรสนิยมเหนือระดับจากการใช้วัสดุพรีเมี่ยมหลากหลาย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ใช้งานง่ายตามหลัก Usability Design ดูหรูหราและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ Smart MID ขนาดใหญ่ 4.2 นิ้ว แผงควบคุมระบบปรับอากาศ Piano Touch พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ Tilt & Telescopic  เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้า พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ มาพร้อมระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment  หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว คมชัดระดับ HD รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound 8 ลำโพง และที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง Vanity Mirror & Light  

ด้านขุมพลังแม้จะยังคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม แต่ก็ถูกเพิ่มเติมในส่วนของเทคโนโลยีเข้าไป เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX เทคโนโลยีดีเซลล่าสุดที่สมบูรณ์แบบ เปี่ยมพลัง และสมรรถนะสูงสุดในทุกด้าน ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600  รอบ/นาที  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่เพื่อให้สามารถถ่ายทอดพลังแรงและความเร้าใจของเครื่องยนต์ใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ถ่ายทอดจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล  พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic  และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต  ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น

โครงสร้างตัวถัง และแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด  “ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM”  นวัตกรรมยานยนต์เพื่อดุลยภาพแห่งการขับขี่ ผสานการทำงานของโครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ เครื่องยนต์ และช่วงล่างให้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่ง เพื่อสมดุลยภาพการขับที่ที่สมบูรณ์แบบ  โดยวางตำแหน่งเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร กับแชสซีส์ ระบบการบังคับควบคุมของพวงมาลัยใหม่ พร้อมระบบกันสะเทือนที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ทำให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เข้าโค้งได้มั่นใจยิ่งกว่าเดิม นุ่มนวล นั่งสบาย แต่แข็งแกร่ง ทนทาน

โครงสร้างตัวถังมีการเสริมเหล็ก ULTRA – HIGH TENSILE  แกร่งและทนทานกว่าเหล็กธรรมดา พร้อมแชสซีส์ใหม่ ขนาดใหญ่ รับแรงบิดสูงขึ้น 23%  ขณะที่ช่วงล่างหน้าใหม่เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น DOUBLE WISHBONE with COIL SPRING ส่วนช่วงล่างหลังแหนบยาวแบบ LONG SPAN เทคโนโลยีใหม่  WSSP 

สำหรับ “อีซูซุ วี-ครอส 4×4 ใหม่หมด”   มาพร้อมขีดสุดแห่งสมรรถนะ 4×4 ใหม่หมดทุกฟังก์ชั่น มั่นใจ ลุยได้ทุกที่ ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด ด้วยที่สุดแห่งสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด…แรงสุด  “อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ใหม่!” เรียกพลังลุยได้ตั้งแต่รอบต่ำ ให้กำลังปีนไต่สูงสุด มาพร้อมช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ เพื่อให้เป็นปิกอัพออฟโรดที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง  ระบบ Terrain Command  พัฒนาใหม่! ทำงานฉับไว แม่นยำยิ่งขึ้น และ Electronic Diff-Lock  ระบบล็อกเฟืองท้ายหรือ Dift Lock ควบคุมด้วยไฟฟ้าเพิ่มความมั่นใจในการพิชิตทุกอุปสรรค พร้อมสมรรถนะลุยน้ำสูงสุด 800 มิลลิเมตร มาพร้อมมาตรฐานใหม่ในวงการยานยนต์  กับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบและครบครัน  เพื่อให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ  มอบความสนุกในการขับขี่อย่างไร้กังวล ด้วยระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหัน, หน้าขนาดใหญ่ 320 มม., ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกระทันหันม ด้วยระบบที่ช่วยในการควบคุมรถได้ง่ายทุกสถานการณ์ม ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring ในกรณีต้องการเปลี่ยนเลน โดยส่งสัญญาณเตือนที่มุมกระจกมองข้าง ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ Parking Aid System พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ  8  จุดรอบคัน  พร้อม Rear Cross Traffic Alert ระบบแจ้งเตือนในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อม Integrated Wiper Blade ระบบฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type ครั้งแรกในวงการปิกอัพ สะอาดหมดจด เงียบยิ่งขึ้น และไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่T

 “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” ยังจัดเต็มในส่วนต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชั่น Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร, กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut  ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร, Welcome Light ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร, Walk Away Auto Lock ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร, Follow Me Home สามารถเปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์Auto Light Off ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติและไฟในห้องโดยสาร เมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถและระบบควบคุมไฟเลี้ยวแบบ Smart Touch สะดวกสบาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส แถมมีระบบ High Efficiency Filter กรองอากาศเข้าห้องโดยสาร สามารถดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5 

เรียกว่าครั้งนี้ทางอีซูซุจัดเต็ม จัดหนัก ตามสโลแกน “พลานุภาพ พลิกโลก” โดยเฉพาะราคาค่าตัวนั้น กระชากใจสาวกอีซูซุได้มากทีเดียว รุ่นท็อปสุดราคาอยู่ที่ 1,164,000 บาท  สามารถยลโฉมตัวจริงได้ที่ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือสามารถติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com และ LINE: @isuzuthai 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *