Tree Top Explorer Laos Trip บนที่ราบสูงโบลาเว่น ประเทศลาว

สืบเนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ผมและครอบครัวได้ไปเที่ยวที่น้ำตกตาดขมึด และได้นำประสบการณ์และรูปภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ดู ทำให้ทุกคนเกิดอยากไปขึ้นมาทันที ในปีนี้เราจึงรวบรวมและชักชวนกันได้ทั้งหมด 18 ชีวิต โดยได้นัดหมายการเดินทางกันในเดือนตุลาคม ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง เพราะน่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด คือ ปลายฝนต้นหนาว น้ำตกยังพอมีน้ำเยอะอยู่  อากาศก็จะเย็นสบายๆ ทริปนี้จะเป็นยังไงโปรดติดตามชมดูนะครับ

โปรแกรมการเดินทางเรากำหนดเอาไว้ คือ 3 วัน 2 คืน โดยบ้านบนต้นไม้ในป่าเป็นหลัก  โดยวันแรกเราเริ่มต้นเดินทางกันที่หน้าออฟฟิตของ บริษัท Green Discovery Loas ในเมืองปากเซ เพื่อนั่งรถต่อไปยังเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงบ้านหนองหลวง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของลาว บนที่ราบสูงโบลาเว่น เขตภูเขาไฟเก่าและที่อยู่ของชาวพื้นเมืองบอละเวน ผมเชื่อว่าคนไทยเราคงพอจะกาแฟที่นี่กันพอสมควร จากภาพยนตร์โฆษณาของกลุ่มบริษัทดาวเฮือง ในแบรนด์” ดาวคอฟฟี่” ที่มี Key Word สำคัญก็คือ สาวสวยที่พูดว่า “เอิ้น…ดาวก่ะได้” ภาพ 2-5

ครั้นถึงที่หมาย เราก็เตรียมตัวใส่อุปกรณ์ต่างๆ เตรียมพร้อมเดินป่าและปีนป่ายไปตามเรือนยอดไม้ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวก harness ชุดอุปกรณ์เซฟตี้ ในการเล่น zipline เราเดินเท้ามุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติดงหัวสาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าดิบชิ้นที่อุดมสมบูรญ์ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ใช้เวลาเดินประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงด่านแรก คือ การเดินบนสลิงเพื่อข้ามลำธาร ทุกคนดูตื่นเต้นไม่น้อย เนื่องจากเป็นของใหม่สำหรับทุกคน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี จากนั้นก็เดินทางกันต่อ จนเที่ยงเราก็พักทานอาหารกลางวัน โดยปูโต๊ะอาหารด้วยใบตอง ส่วนเมนูอาหารเป็นอาหารพื้นเมืองของลาว เช่น น้ำพริกแจ่วลาว หมู่ย่าง ข้าวเหนียว รสชาติถูกปากและแซ่บจริงๆ 

จากนั้นเราก็เดินทางต่อ ก็จะไปเจออุปสรรคต่อมา คือ สะพานไม้แขวนด้วยสลิง เดินแล้วก็โคลงเคลงไป-มา เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้ร่วมทริปได้เป็นอย่างดี  และก็มาเจอเส้นสลิงเส้นแรกที่เราจะเล่น zipline ทุกคนตื่นเต้นเพราะแต่ละคนไม่เคยได้สัมผัสหรือเคยเล่นกันมาก่อนเลย เส้นแรกแค่ใกล้ๆ ประมาณ 20 เมตร ผ่านไปได้ด้วยดี ถัดมาก็ถึงเส้นที่ยาวและค่อนข้างสูง บางคนเริ่มเกิดอาการเสียว ขาสั่น ตัวสั่น แต่กลัวยังไงก็ต้องไปต่อ เพราะไม่อย่างนั้นก็ไปไม่ถึงแค้มป์ที่พัก อดกินข้าวเย็น 555 

เส้น zipline มีทั้งหมด 10 เส้นจนถึงที่พัก แต่ละเส้นก็สวยงาม จะเห็นวิวน้ำตกตาดเสือ น้ำตกตาดขมึดที่สวยงามมาก ช่วงที่ผ่านน้ำตกจะมีเส้น zipline ให้เล่น 5 เส้น โดยเฉพาะที่น้ำตกตาดขมึด เส้นสุดท้ายจะเป็นเส้นคู่ที่ต้องเล่นไปพร้อมๆ กัน หลายคนเริ่มคุ้นชินและคลายความกลัว กลายเป็นความสนุกมาแทนที่ ราวห้าโมงเย็นเราก็เดินทางถึงแค้มป์ที่พัก ซึ่งห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ มีน้ำตกอยู่เป็นฉากหลังอันสวยงาม แค้มป์ที่พักจะมีส่วนของห้องอาหาร และบ้านต้นไม้ที่ใช้นอน บ้านต้นไม้จะปลูกอยู่บนต้นไม้ใหญ่ เวลาเราจะไปบ้านหลังอื่น ก็ต้องเล่น zipline แทนการเดิน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หลังจากต่างคนต่างทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็มารวมตัวทานอาหารเย็นกัน กับเมนูอาหารอร่อยๆ ของ ทีมงานซึ่งมีแม่ครัวเป็นหญิงลาวทำให้ทาน จากน้ำก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย กลางวงล้อมแห่งสายธารและขุนเขา บรรยากาศเช่นนี้หาได้ยากจริงๆ   

สบายดี(สวัสดี) น้ำตกตาดขมึด วันที่สองของการเดินทาง หลังทานอาหารเช้าคลอเคล้ากับวิวน้ำตกสวยๆ แล้ว วันนี้ถือว่าเป็นการเล่น zipline ท่องเที่ยวในบริเวณนี้ โดยมีทั้งหมด 13 เส้น เส้นที่ยาวที่สุดคือ ยาว 450 เมตร จะเห็นวิวป่าเขา น้ำตกที่สวยงาม ต่อด้วยการเดินป่าไปชมความสวยงามของน้ำตกตาดตะเก็ดกลางป่าใหญ่ แต่ทางเดินเท้าค่อนข้างลำบาก และลาดชัน และป่าก็ยังรกอยู่  ต้องใช้แรงขาค่อนข้างมาก บางคนถึงกับหอบต้องหยุดพัก แต่เมื่อเห็นน้ำตกก็หายเหนื่อยกันเป็นปลิดทิ้ง

จากนั้นเราก็เดินต่อ สลับกับการเล่น zipline เพื่อไปทานอาหารกลางวันกันที่ลำธาร ที่มีน้ำตกไหลผ่านสวยงามมาก บรรยากาศดีสุดๆ ปูด้วยใบตองอาหารอร่อย มีกาแฟลาวร้อนๆ ให้ดื่ม เราพักเล่นน้ำกันที่นี่ แล้วก็เดินทางต่อไปเล่น zipline และไฮไลท์ อีกอุปสรรคคือ เดินบน เส้นสลิงที่แกว่งไปมาเหมือนโล้ชิงช้า ทำให้หลายคนออกอาการเสียวไปตามๆ กัน เรียกเสียงหัวเราะในหมู่เพื่อนพ้อง หลายคนบอกว่าด่านนี้น่ากลัวและเสียวมาก

เวลาแห่งความสนุกสนานถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงบ่ายแก่ๆ เราก็มุ่งหน้ากลับแค้มป์ที่พัก เพื่อชวนกันไปน้ำเล่นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ แค้มป์ที่พัก จากนั้นก็ทานอาหารเย็น นั่งคุยกันสนุกสนาน เล่าถึงเรื่องสนุกๆ ที่ทำกันมาวันนี้ อย่างออกรส ได้ยินเสียงหัวเราะตลอดคืน ดีนะที่นี่ ไม่มีสัญญาณมือถือ ไม่มีทีวี ตู้เย็น มีแต่เครื่องปั่นไฟ ให้เราก็ชาร์ทอุปกรณ์ ก็แค่นั้น….ทำให้บรรยากาศยามค่ำคืน เป็นไปอย่างสนุกสนานจริงๆ 

เช้าวันที่สามเราเดินทางออกจากป่าโดยใช้เส้นทางขามา วันนี้หลายๆ คนจะได้แก้ตัว เล่น zipline ปีนหน้าผา หลังจากใช้ชีวิตติดกับสลิงมาสองวันเต็มๆ มีอีกกลุ่มแยกไปทำกิจกรรมโรยตัว ลงจากหน้าผาตรงหน้าน้ำตกตาดขมึด วันนี้สมาชิกแต่ละคนดูคล่องแคล่ว ไม่กลัวการเล่น zipline แล้ว เพราะแต่ละคนก็ไปเบรคกันกลางเส้นสลิงเพื่อถ่ายรูปกัน สนุกสนานกันใหญ่ สวนกลุ่มโรยตัว ก็ปีนหน้าผาขึ้นไปเพื่อไปโรยตัวกัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น บอกตรงๆว่า ไม่เคยโรยตัวเลย staff  ก็สอนสดๆ กันเลย ครั้งแรกก็เสียวๆ เช่นเดียวกับการปีนหน้าผา ที่ต้องใช้แรงตัวเองในการปีนขึ้น แม้ครั้งแรกๆ จะออกอาการเสียวปนสั่นอยู่บ้าง เราก็มาพักทานข้าวเที่ยงบนหน้าผาสูง เห็นวิวสวยงาม จากนั้นก็เดินทางต่อผ่านไร่กาแฟ มายังบ้านหนองหลวง จุดสุดท้ายของทริปนี้ ก่อนจะเดินทางต่อเข้าเมืองปากเซ ผมถามสมาชิกว่า สนุกกันไหม ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกมากๆ บางคนบอกถ้าไม่มาคงเสียดายมากๆ บางคนบอกอยากจะมาอีก

สนใจโปรแกรมท่องเที่ยว Tree Top Explorer Laos ข้อมูลการติดต่อ

– บริษัท Green Discovery Laos หรือที่ inbox มาสอบถามได้ที่ facebook: Pornwitsanu Mettaprasert

ข้อมูลการเดินทาง

-เครื่องบินไป กลับ จ.อุบลราชธานี หรือจะขับรถไปเองก็ได้

-ค่ารถทัวร์ อุบลราชธานี- ปักเซ คนละ 200 บาท /เที่ยว

-ค่าทริป Tree Top Explorer  3 วัน 2 คืน คนละ $299
-นอนที่เมืองปากเซ  รร. Phi Dao คืนละ 700 บาท
ค่าใช้จ่ายหลักๆ ก็ประมาณนี้

พรพิษณุ  เมตตาประเสริฐ เรื่อง/ภาพ